ฉันอยู่ในเมืองวุ่นวาย ที่มีผู้คนรอบกาย
การใช้ชีวิตตรงนี้บางทีก็ดูยากไป
ผู้คนรอบกาย ทำฉันขาดความเชื่อใจ
ทำไมชีวิตตรงนี้มันถึงดูยาก
บางทีชีวิตมันก็ดูยาก ผู้คนดูผลไม่ดูซาก
เฝ้าปลูกพรวนดินรดน้ำแทบตาย
แต่คนดูดอกไม้ไม่เคยดูราก
ชีวิตที่มันซ้ำซาก ภาระหนี้สินที่มันล้นบ้าน
บางทีทางเดินมันก็แสนจะยาก
แต่ไม่เคยมีใครเข้ามาถามบ้าง
ฉันปิดไฟแล้วก็เปิดม่าน
ฉันเปิดหน้าต่างแล้วก็มองวิว
ช่วงชีวิตฉันตอนทำงาน
ไม่เคยได้อยู่บ้าน แล้วก็นอนชิลล์
สายลมปลิดปลิวพัดพาหลายอย่าง
เห็นสิ่งต่างๆ ที่ฉันสร้างมา
ฉันมองเห็นถึงความจริงหลายอย่าง
ที่เป็นภาพลอยเข้าในม่านตา
ฟ้ายังมืดมนทุกวัน ยังรอวันที่มันสว่าง
เมฆฝนที่พัดบางๆ จะผ่านไป
และฉันก็ยังเป็นเหมือนกัน ยังรอวันที่ฉันกระจ่าง
รอความทุกข์ให้มันจางออกจากใจ
ยิ่งโตยิ่งเหนื่อยไม่ใช่เด็กเล็ก ไม่ใช่เด็กเล็ก
ปัญหาเข้ามามันก็เจ็บชิบ มันก็เจ็บชิบ
อยากขึ้นไปยืนบนผา แต่ไม่มีปัญญาจะซื้อลิฟท์
ถ้าอยากสำเร็จมึงก็พยายาม
ไม่ใช่นอนอยู่บ้านดูแต่เน็ตฟลิกซ์
ชิก ชิก ชิก ชิก ฝนตกหนักเดี๋ยวมันก็จะหยุด
ทุกข์ ทุกข์ ทุกข์ อีกไม่นานเดี๋ยวคุณก็จะสุข
แค่อีกไม่นาน แค่อีกไม่นาน แค่อีกไม่นาน ความสุข
แค่อีกไม่นาน แค่อีกไม่นาน แค่อีกไม่นาน ความสุข
ฝนตกฉัน เห็นพายุมันพัดผ่าน
ก้อนเมฆสีดำเหมือนเถ้าถ่าน ผู้คนต่างรอให้ฝนซา
ฝนหยุด ฉันเห็นนกน้อยมันบินผ่าน
ก้อนเมฆสีเหลืองทองอร่าม สายรุ้งงดงามก็ขึ้นมา
โย่ว กับบางที ชีวิต มันก็ So bullshit
ทุกคนคิดว่าชีวิตมันต้องติดอยู่กับหลักธรรม
ปรักปรำความจริงที่ได้ยินที่ได้เจอที่ได้อยู่ที่ได้กินที่มันกลับกัน
จึงต้องเก็บความเจ็บไว้เป็นหลักให้ตระหนักว่าไอปรัชกูต้องกัดฟัน
ตัดอดีตทิ้งปัญหา ที่ขัดขาในเวลาที่กลับตัว แต่ไม่ตัดใจ
ไฟสลัว ท้องยังหิว บรรยากาศที่มันรู้สึกบั่นทอน
บวกกับคำในหัว แผลมันก็แค่ผิวกับเจตนาที่ไม่รู้จักกลั่นกรอง
ไม่ได้หวังให้แร็ปกูเป็นดั่งทอง แต่กูยังเชื่อในเลือดที่มันหลั่งนอง
ว่าในทุกคำที่เชื่อมที่ขับเคลื่อนกระเพื่อมไรห์ม
ที่เลือดมันเปื้อนยังใช้ชีวิตที่กูคิดให้เป็นดั่งกลอน
หมดเวลาจะเสียใจ จึงต้องไปในทางที่กูเชื่อแล้วก็เลือกเดิน
หมดเวลาจะเสียใจ จึงต้องไปในทิศทางที่กูเชื่อแล้วก็เลือกเดิน
ตอบแทนจากที่เสียไปไม่ใช่รถหรือว่าเหล้ายาหญิงไม่ใช่เพื่อเงิน
เม็ดฝนที่มันโปรดปราย เพื่อเตือนใจไม่ให้ย้ำไม่ให้วกกลับไปเรื่องเดิม
พิสูจน์ตัวเองไปจนตาย บางเหตุผลจากข้างในบอกไปใครจะเชื่อมึง
และมันก็ไม่มีเทพมาประทานพรในทุกครั้งที่มึงนอนและก็ตื่นลืมตา
(ฟ้ายังมืดมนทุกวันยังรอวันที่มันสว่าง)
มองโลกแบบไม่เคยยอมถึงแม้รู้อยู่แก่ใจไม่ได้อะไรคืนมา
(เมฆฝนที่พัดบางๆ จะผ่านไป )
เหมือนกับรุ้งที่มันลอยอยู่บนฟ้าครามอยู่ในยามที่ฝนโบกมือลา
โศกไม่ยืนยาวประโยคนี้คือยาและเพียงสิ่งเดียวที่ต้องสยบคือมาร
(และฉันก็ยังเป็นเหมือนกัน ยังรอวันที่ฉันกระจ่าง)
(รอความทุกข์ให้มันจางออกจากใจ)
ถึงทุกคนที่ได้ผ่านก็ไม่ต่างแม้ยังห่างไกล
ฟ้ายังมืดมนทุกวัน ยังรอวันที่มันสว่าง
เมฆฝนที่พัดบางๆ จะผ่านไป
(ก็แค่ลมที่มันพัดที่มันผ่านเดี๋ยวก็ผ่านไป)
และฉันก็ยังเป็นเหมือนกัน ยังรอวันที่ฉันกระจ่าง
รอความทุกข์ให้มันจางออกจากใจ
(ถึงทุกคนที่ได้ผ่านก็ไม่ต่างแม้ยังห่างไกล)